ความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดใสหรือเรียกกันว่า White Sprit จิน Gin เครื่องดื่มที่มีความน่าสนใจ ที่กำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมากและได้มีการคาดการณ์ว่าระหว่างปีค.ศ. 2019 – 2025 จะมีการเติบโตขึ้นถึง 3.7% กลายเป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีความชื่นชอบการลองรสชาติใหม่ๆ และแนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นกับตลาดที่เมืองไทยเช่นกัน ในช่วง 4 ถึง 5 ที่ผ่านมา เครื่องดื่มนี้ก็กลายเป็นที่นิยม โดยมีหัวสำคัญคือเครื่องดื่มกลุ่ม “วอดก้า” (Vodka) และในช่วง 1 ถึง 2 ปีนี้ เครื่องดื่มอื่นๆที่ได้รับความสนใจไม่ต่างกันและเติบโตได้อย่างรวดเร็วสวนทางกับตลาดนั่นก็คือ “Gin” (จิน)

จิน Gin เครื่องดื่มที่มีความน่าสนใจ

ข้อแตกต่างของ Vodka และ Gin จิน Gin เครื่องดื่มที่มีความน่าสนใจ

อย่างที่รู้กันว่า วอดก้าและจินนั้นเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 ชนิดที่ได้รับความนิยมในบรรดานักดื่ม จิน Gin เครื่องดื่มที่มีความน่าสนใจ ถึงแม้ว่าทั้งวอดก้าและจินจะเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง แต่หลายๆคนก็ยังคงสับสนและไม่สามารถแยกความแตกต่างของเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้ได้ ด้วยความคล้ายคลึงกันนั้น ทั้งในเรื่องของสี และการเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับสายค็อกเทล แต่ถึงอย่างไรเมื่อพูดถึงการรับรสของทั้งคู่ จินจะมีรสชาติและกลิ่นของพฤกษชาติที่โดดเด่น และในขณะที่วอดก้าจะมีกลิ่นและรสชาติที่เบาบางหรือแทบไม่มีรสชาติ แต่ก็ด้วยความต่างในความเหมือนกันนั้นจึงทำให้หลายคนยังมีความสับสนในการสั่งเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้ แต่อยากจะบอกว่าที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะดูเหมือนกันสักแค่ไหน วอดก้าหรือจิน ก็ต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา และมีที่มาต่างกัน

วิธีการผลิตที่มีความต่าง แต่!!เหมือนกัน

ถ้าหากพูดถึง จินหรือเหล้ายิน มีต้นกำเนิดมานาน ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 17 ในฮอลแลนด์ จินถือได้ว่าเป็นสุรากลั่นจากธัญพืชที่ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติจากการกลั่นผลของเบอร์นี่ต้นสนชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า จูนิเปอร์เบอร์รี่ (Juniper Berry) และพฤกษชาติอื่นๆ ที่ทำให้เกิด “กลิ่น” ที่เป็นเอกลักษณ์ และส่วนมากมักดื่มผสมกับน้ำโทนิค (Tonic Water)  จะว่าไปแล้วเครื่องดื่มประเภทเหล้าใส ก็ถือเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละชนชาติเลยทีเดียว เช่น กลุ่มสินค้าประเภท Gin ที่ครองมาร์เก็ตแชร์ในตอนนี้คือ London Dry Gin ถึงแม้ว่าที่จริงแล้ว Gin จะถือกำเนิดขึ้นจากประเทศเนเธอร์แลนด์ และวิธีการผลิตที่แพร่หลายที่สุดกลับเป็นวิธีการที่ถือกำเนิดขึ้นในเมืองลอนดอน แถมยังเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 18 เช่น แบรนด์ Tanqueray เป็นแบรนด์ที่ยอดขายดีที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2016-2019 และ Tanqueray London Dry Gin ได้กำเนิดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ชาร์ลส์ แทงกูเรย์ บุคคลที่ทำให้เครื่องดื่ม Gin เป็นที่รู้จักทั่วโลก

ในปีค.ศ. 1830 ชาร์ลส์ แทงกูเรย์ ค้นพบว่า เขานั้นมีความฝันที่จะทำ Gin ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และก็สามารถนำไปรังสรรค์เป็นเครื่องดื่มได้หลายชนิด ดังนั้นตัวเขาจึงมุ่งมั่นที่จะหาส่วนผสมที่ถูกใจนั้นมาผลิตเป็น Gin ตามรูปแบบฉบับของเขา และในส่วนรสชาติดั้งเดิมนั้น ก็จะมีกลิ่นจูนิเปอร์กับชะเอมเทศอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ Tanqueray Flor de Sevilla ที่ใช้ส้มจาก “เซบียา” ด้วยภูมิประเทศกับภูมิอากาศของเมืองเซบียา ซึ่ง ชาร์ลส์ แทงกูเรย์ ได้ใช้ส้มจากที่นี่เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มของเขา และสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ และในปีนี้เอง Tanqueray ก็ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 0.0% ตามเทรนด์ของเครื่องดื่ม

ทำไม White Spirit เหล้าของต่างประเทศอย่าง Gin จึงเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทย?

แต่อย่างไรก็ตาม ในประเทศแถบยุโรปโดยเฉพาะที่ประเทศอังกฤษ มีวัฒนธรรมที่ถูกปลูกฝังมาอย่างยาวนานในเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้น!! จึงทำให้คนในอังกฤษมองว่าการดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และไม่ว่าจะในโอกาสพิเศษหรือวันธรรมดาก็ตาม ขณะเดียวกันวิสกี้หรือเครื่องดื่มสีน้ำตาลก็สามารถครองตลาดแอลกอฮอล์ในประเทศไทยได้มากถึง 70% จากยอดรวมทั้งหมด แต่เมื่อเทรนด์ White Spirit เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมการดื่มของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สุราก้าวหน้า และได้เริ่มหันมาสนใจ เครื่องดื่มประเภท White Spirit อย่าง Gin ด้วยความที่เครื่องดื่มชนิดนี้นั้นดื่มง่าย และมีความลงตัวระหว่าง Dry ที่มีรสไม่หวานและกลิ่นที่สดชื่นของผลจูนิเปอร์ ซึ่งได้เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้จินนั้นแตกต่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ

Gin เครื่องดื่มแคลอรี่ต่ำ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสาวออฟฟิศในเมือง

หากพูดถึงการดื่ม การสังสรรค์ปาร์ตี้ สาวๆ หลายคนอาจกังวลในเรื่องของแคลอรี่ และโดยส่วนใหญ่หลายคนอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าการที่บริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากอาจส่งผลเสียต่อรูปร่างและสัดส่วน แต่หากพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แคลอรี่น้อยที่เหมาะสำหรับผู้หญิง Gin ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของสาวๆ อีกทั้งจินยังดื่มและผสมง่าย ดื่มได้สบายๆในมื้ออาหาร นี่ก็คืออีกเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้เครื่องดื่มจินเริ่มมียอดขายเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับเหล้า ไวน์ หรือ เบียร์ และยิ่งถ้าผสมจินกับโซดาหรือมิกเซอร์ที่ไม่มีน้ำตาล Gin ก็จะมีแคลอรี่ที่น้อยมากๆ

เมนูที่ทานแล้วเป็น Perfect Pairing

และนอกจากนี้ยังมีการจับคู่กับอาหารคาว-หวาน เพื่อเพิ่มศิลปะของการดื่มและเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการ chill out หรือที่เรียกกันว่า Ginstronomy ซึ่งนิยามก็คือศิลปะการจับคู่อาหารและเครื่องดื่ม White Spirit อย่าง Gin Tonic ส่วนใหญ่เมนูที่เข้าคู่กันได้ดี จะเป็นหมวดหมู่อาหารที่ให้ความสดชื่น เช่น กุ้ง หอยแมลงภู่ สโมคแซลมอน อาหารทะเลต่างๆ และก็ชีส

ชีสนั้นเป็นเครื่องเคียงอีกประเภทหนึ่งที่เข้ากันได้ดีกับจินและโทนิค ไม่ว่าจะ “Camembert” “Fourme d’Ambert”, “Saint Marcellin” “Comte” ชีสของสัญชาติฝรั่งเศสที่มีรสชาติเฉพาะตัวที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคู่ผสมที่ลงตัวเพื่อให้สัมผัสคนที่รัก Gin tonic ได้เป็นอย่างดี

Gin คืออะไร มีวิธีดื่มอย่างไร เจาะลึกที่มารสชาติของ Gin หรือ “เหล้าขาว” จิน Gin เครื่องดื่มที่มีความน่าสนใจ

Gin คือสุราที่ถูกกลั่นจากธัญพืชที่หลากหลายชนิด จะมีความแตกต่างกันตามพื้นที่นั้นๆ และถือว่าเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ที่มาจากธรรมชาติ ส่วนมากจะผสมกับผลจูนิเปอร์ และน้ำมันหอมระเหย หรือสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม และกฎหมายได้กำหนดว่าต้องมีแอลกอฮอล์ไม่น้อยกว่า 40 ดีกรี โดยกระบวนการผลิตก็จะมีหลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งได้ตามนี้ 

1.การผลิตแบบดั้งเดิมหรือแบบดัทช์ Dutch

ทำโดยการหมักธัญพืชหลายชนิดเข้าด้วยกัน จากนั้นทำการกลั่นในหม้อต้มเพื่อให้ได้แอลกอฮอล์ที่มีลักษณะใส และปิดท้ายด้วยการหล่อเย็นและบรรจุลงขวด จนกลายมาเป็น Gin ที่มีเอกลักษณ์และกลิ่นเฉพาะ โดยการผลิตในรูปแบบดั้งเดิมนั้นจำเป็นต้องมีผลจูนิเปอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญ!! ซึ่งเป็นผลเบอร์รี่ที่หายากมากๆ เพราะจะออกผลแค่ปีละครั้งเท่านั้น 

2.การผลิตแบบสมัยใหม่ 

เนื่องจากผลจูปิเตอร์หายากมากในยุคปัจจุบัน จึงทำให้ผู้คนเริ่มหาสิ่งอื่นๆมาทดแทนที่เพื่อให้ได้รสสัมผัสและกลิ่นที่ใกล้เคียงกับแบบดั้งเดิมมากที่สุด และในแถบประเทศอังกฤษได้เริ่มมีการใช้น้ำมันจากต้นสนเข้ามาเจือปน เพราะให้รสสัมผัสที่คล้ายคลึงกัน และนอกจากนี้ มีการใช้หัวเชื้อจากธรรมชาติที่หลากหลายตามภูมิภาค เพื่อให้ได้รสชาติกลิ่นอายของ Gin ตามแบบฉบับดั้งเดิมอีกด้วย

Gin ดื่มอย่างไร กินกับอะไรแล้วเข้ากันที่สุด? จิน Gin เครื่องดื่มที่มีความน่าสนใจ

คนส่วนมากมักจะลิ้มรสของ Gin แบบเพียวๆ โดยจะไม่ทำการผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ เนื่องจากต้องการที่จะได้รสสัมผัสที่เข้มข้นและหอมกลิ่นสมุนไพรมากกว่า ในส่วนของการกินเพื่อให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้นนั้น ควรเสิร์ฟในแก้วที่มีปริมาณไม่เกิน 50 มล. ก่อนดื่มแนะนำให้นำไปแช่เย็นเพื่อจะทำให้ได้รสชาติที่ดีและดื่มง่ายมากยิ่งขึ้น หรืออาจจะผสมกับผลไม้ที่ชอบ อย่างเช่น “ส้ม” “กีวี่” “เบอร์รี่” เพื่อสร้างลูกเล่นสีสันให้กับเครื่องดื่มชนิดนี้มากขึ้นนั่นเอง ส่วนอาหารที่นิยมทานกับ Gin ก็คือ อาหารประเภทผัดหรือต้ม เพราะจะช่วยเสริมรสชาติอาหารให้มีความโดดเด่น แต่จะไม่แนะนำให้ดื่มคู่กับผักหรือขนมปังอบกรอบ เพราะไม่เข้ากันเป็นอย่างมาก

เป็นอย่างไรกันบ้างหลังจากที่เรนโบว์พาไปทำความรู้จักกับ Gin เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความเก่าแก่อีกชนิดหนึ่ง ทั้งยังสามารถช่วยบำรุงร่างกาย และก็มีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ ซึ่งในปัจจุบันได้มีการผลิตเครื่องดื่มชนิดนี้ขายหลากหลายยี่ห้อทั้งในแบบต้นตำรับและแบบผสม เครื่องดื่มใสๆ ที่ชื่อว่า วอดก้า โดยจะมีราคาที่แตกต่างกันตามความพิถีพิถัน ดังนั้น ลองเลือกสุรานี้ สุราเสรี เป็นแก้วโปรดในงานปาร์ตี้ของเพื่อนๆดูบ้างสิคะ รับรองจะติดใจไม่แพ้เหล้าชนิดอื่นอย่างแน่นอน

#สุราไทย #เหล้าขาว #สุราเสรี #Funny888 #เว็บอันดับ1 #บาคาร่าออนไลน์ #หวยเด็ด #หาเงิน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *